البحث

عبارات مقترحة:

الأكرم

اسمُ (الأكرم) على وزن (أفعل)، مِن الكَرَم، وهو اسمٌ من أسماء الله...

المعطي

كلمة (المعطي) في اللغة اسم فاعل من الإعطاء، الذي ينوّل غيره...

الرفيق

كلمة (الرفيق) في اللغة صيغة مبالغة على وزن (فعيل) من الرفق، وهو...

มุสลิมใหม่ วนิสสา ลางสันเทียะ : อิสลามคือทางนำอันประเสริฐ

التايلاندية - ไทย / Phasa Thai

المؤلف
القسم مقالات
النوع نصي
اللغة التايلاندية - ไทย / Phasa Thai
المفردات الدعوة إلى الإسلام - لماذا أسلموا؟ [ قصص المسلمين الجدد ]
เรื่องราวการรับอิสลามของ วนิสสา (ซานิยาฮฺ) ลางสันเทียะ หญิงสาวที่ฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาต่างๆ เมื่อหันมารับอิสลาม ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และเชื่อมั่นในความช่วยเหลือของอัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้า

التفاصيل

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ   วนิสสา (ซานิยาฮ) ลางสันเทียะ : อิสลามคือทางนำอันประเสริฐฺ    ประวัติส่วนตัว - ชื่อ วนิสสา (ซานิยาฮฺ) ลางสันเทียะ.. อายุ 25 ปี - บิดากับมารดาแยกทางกัน อยู่กับมารดา ไม่มีพี่น้อง แม่มีลูกคนเดียว - สถานภาพ นิกะห์แล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 53 / วันที่ 20 เดือนชะบาน ฮ.ศ.1431 - จบการศึกษาระดับชั้น ปวช.(ประกาศนียบัตรวิชาชีพ) - กำลังศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยของ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช - เป็นพนักงานประจำที่บริษัทแห่งหนึ่ง - รับอิสลามมาแล้ว 3 ปี (รับอิสลามเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 50) Islammore : มุมมองเกี่ยวกับมุสลิมก่อนที่จะรู้จักศาสนาอิสลาม ? Saniyyah : สำหรับตัวดิฉันก่อนหน้าที่จะรู้จักศาสนาอิสลาม ก็ได้รู้จักมุสลิมที่เป็นลูกค้าของทางบริษัท และรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างอะไรจากเรามากนัก  จริงๆ แล้วก่อนที่จะเป็นมุสลิมมีโอกาสรู้จักกับพี่น้องมุสลิมน้อยมาก..  จึงไม่สามารถบอกถึงตัวบุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามได้.. แต่ที่เห็นดิฉันยังรู้สึกว่ามุสลิมหลายคนยังปฏิบัติได้ไม่ครบตามหลักการศาสนาอิสลาม แต่ศาสนาอิสลามในความคิดของดิฉันไม่เคยมองในแง่ลบ  อาจเป็นเพราะช่วงที่เรียนหนังสือไม่ค่อยได้รู้จักศาสนาอิสลามเท่าไหร่ ในตำราเรียนจะบอกแค่ว่า ศาสนาต่างๆป็นอย่างไร ใครเป็นพระเจ้าของศาสนานั้น..และจำได้ว่าช่วงที่เรียนอยู่ ม.2-ม.3 มีวิชาที่เกี่ยวกับศาสนา ในตำราเรียนเขียนไว้ประมาณว่า..ศาสนาอิสลาม มีพระเจ้าองค์เดียว มีศาสดาชื่อมูฮัมมัด และมีการปฏิบัติทั้ง 5 ประการ  ศาสนาอิสลามมีภรรยาได้มากกว่า 1 คนแต่ไม่เกิน 4 และก็เขียนบอกประมาณว่า พระเจ้าของศาสนาอิสลามบอกไว้ว่า พระองค์จะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงประชาติใดนอกจากเขาจะเปลี่ยนตัวเขาเอง อะไรทำนองนี้ค่ะ  ดิฉันก็สงสัยหลายอย่างในศาสนาอิสลาม แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่รู้สึกว่าทำไมรายละเอียดแค่นี้คนที่เป็นมุสลิมถึงไม่มีใครเปลี่ยนมาเป็นพุทธบ้าง Islammore :  เหตุผลในการเปลี่ยนศาสนา และระยะเวลาในการเปลี่ยนศาสนา ? Saniyyah : ก่อนอื่นต้องบอกว่าดิฉันได้มาโอกาสรู้จักกับผู้ชายมุสลิมคนนึง..เขาถือเป็นสะพานให้ได้รู้จักศาสนาอิสลามที่มากขึ้น ยอมรับว่าการคบกันแบบแฟน 2 ปี ที่รู้จักชายมุสลิมคนนี้ก่อนที่จะเปลี่ยนศาสนา เขาไม่สอนอะไรเกี่ยวกับอิสลามเลย (แต่เพิ่งมารู้ความจริงว่าการสอนของเขาคือการดำเนินชีวิตของเขานั้นแหละ) ผู้ชายมุสลิมคนนี้ก็คือสามีคนปัจจุบันเราเพิ่งจะนิกะห์(แต่งงาน)กันได้ไม่นานนี้เอง ซึ่งดูภายนอกก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าเขาเป็นมุสลิม..แต่พอได้พูดคุยรู้จักกัน รู้สึกว่าเขาเป็นคนมีมารยาทดี นิสัยอ่อนโยน และด้วยสิ่งที่เขาเป็นทำให้ดิฉันกับเขาก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้นจนเริ่ม ศึกษากันมากขึ้น แต่การพูดคุย การใช้ชีวิต และนิสัยบางอย่างของเราไม่สามารถเข้ากับเขาได้ เพราะเรารู้จักกันมาเกือบ 2 ปี แต่ดิฉันไม่เคยได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเลย เพราะเขาไม่อยากบังคับให้ฉันเปลี่ยนศาสนา เขาอยากให้ฉันศรัทธาด้วยตัวเอง จนกระทั่งเราเริ่มไปกันไม่ได้ ต่างความคิด ต่างศาสนา ต่างวิธีการดำเนินชีวิต จนต้องยุติการคบกัน ช่วงที่มีแฟนมุสลิมฉันมีปัญหากับทางบ้าน จนต้องออกมาอยู่ข้างนอก ก็มีบังคนนี้คอยดูแล อยู่ห้องเช่ามาเกือบปี....ดิฉันก็ยังไม่ได้รับอิสลาม จนเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น บังกับดิฉันมีเรื่องที่ต้องแยกจากกัน เรื่องนี้ถือว่าหนักมาก เพราะฉันยังไม่มีวิธีคิดแบบอิสลาม เราคิดว่าฝากชีวิตไว้กับบังคนนี้แล้ว พอเกิดเหตุการณ์นี้ดิฉันถึงกับเครียดหนัก นอนโรงพยาบาล 3 วัน เพราะโรคเครียด เหมือนว่าเราไม่มีใครแล้ว แม่ก็ไม่เข้าใจ คิดว่าจะพึ่งบังก็มีเรื่องที่ต้องแยกจากกัน ดิฉันอยู่คนเดียว ไม่มีที่พึ่งเพราะตอนที่คบกับบังก็ไม่ไหว้พระแล้ว...แต่ก็ยังไม่รู้จักอัลลอฮฺ ฉันเสียใจและเจ็บปวด เพราะเหมือนถูกทอดทิ้ง กลับไปหาแม่ก็ไม่ได้.. เพราะท่านไม่เข้าใจ ดิฉันทนไม่ไหวกับสิ่งที่เป็น..ร้องไห้ทุกคืนคิดว่า ยังไงก็คงไม่มีโอกาสได้คบกับบังอีกแล้ว   ตอนเย็นวันที่ 19 มิ.ย. 50 หลังกลับมาจากที่ทำงานรู้สึกว่าทำไมชีวิตแย่จัง ถ้าพระเจ้าของอิสลามมีอยู่จริงได้โปรดทำให้ฉันดีขึ้นด้วยเถิด กระดาษโน้ตที่จดมาจากอินเตอร์เน็ต พร้อมกับท่องอยู่นานและฉันก็ตัดสินใจ..กล่าวปฏิญาณตน หันหน้าไปทางทิศกิบลัต (ทิศที่ใช้ผินหน้าในละหมาด) “อัชฮะดูอันลาอิลาฮะอินลัลลอฮฺ วะอัชฮะดุอันนะมูฮัมมะดัรรอซูลลุลลอฮฺ” ฉันพูดทั้งน้ำตาว่า  “ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ฉันจะเคารพภักดีนอกจากอัลลอฮฺ และปฏิณาณว่าท่านนบีมูฮัมมัดเป็นศาสนาทูตของพระองค์” และแล้วหัวใจที่มืดบอดก็รู้สึกโล่งสบาย น้ำตาที่ไหลจากความเสียใจเพราะผู้ชาย กลายเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ต่อไปนี้ฉันเป็นมุสลิมแล้ว แม้ไม่มีบังคนนั้น ฉันก็จะอยู่กับอัลลอฮฺ และฉันก็มั่นใจว่าอัลลอฮฺจะเป็นผู้ดูแลฉัน ช่วงที่คิดว่ายังไงคงไม่ได้คบกับบังแล้ว และก็ปฏิญาณตนทั้งที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการทดสอบของอัลลอฮฺ และยังไม่เข้าใจอะไรมากเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ดิฉันจึงศึกษาจากอินเตอร์เน็ต ศึกษาอย่างมุ่งมั่นอ่านจากหนังสือบ้าง อ่านจากบทความจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลามต่างๆ (แต่ในใจลึกๆ ของดิฉันก็ยังท้อแท้อยู่ เพราะดิฉันต้องต่อสู้คนเดียว) ต้องขอยอมรับว่าเรื่องแรกที่ดิฉันศึกษาคือ การมีภรรยาได้มากกว่า 1 แต่ไม่เกิน 4 คน เพราะเป็นคำถามในใจตลอดมา และก็เริ่มหัดละหมาดจาก CD และหนังสือคู่มือมุสลิมเบื้องต้น จำได้ว่าเมื่อเริ่มละหมาดครั้งแรก นั้นคือเวลาอิชาอ์ ดิฉันใช้เวลาละหมาดเกือบชั่วโมง ทั้งจำคำอ่าน และท่าทางการละหมาด ช่วงเวลา ซุฮฺริ กับ อัศริ จะกลับมาละหมาดที่ห้องทุกวันเพราะยังไม่ได้บอกที่ทำงาน Islammore :  ปัญหาและอุปสรรคหลังจากเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ? Saniyyah : หลังจากที่เปลี่ยนศาสนาก็ยังไม่มีใครรู้เพราะปีแรกที่เปลี่ยนศาสนา ยังไม่คลุมผม และยังไม่มีที่ละหมาด จึงต้องปิดบังเพราะเกรงว่าคนที่ทำงานจะไม่เข้าใจ แต่ตอนที่เปลี่ยนศาสนาอีกประมาณ 4 เดือนจะถึงเดือนรอมฎอนพอถึงเดือนรอมฎอนก็ถือศีลอดเลย ทั้งที่ยังไม่ค่อยรู้ว่ามีการละหมาดตะรอเวียะห์ หรือต้องละหมาดอีดด้วย แต่การปฏิบัติเกี่ยวกับการถือศีลอด ก็หามากจากเว็บไซต์ แล้วก็ปฏิบัติตาม พอปีที่สองของการรับอิสลาม เข้ารอมฎอนอีกครั้งก็ขอดุอาอ์ว่าให้ได้คลุมฮิญาบ และขอให้การคลุมฮิญาบนี้ได้เผยแพร่ศาสนาไปด้วย พร้อมกับไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะคลุมฮิญาบไปตลอดชีวิต จึงเริ่มมีอุปสรรค คือ แม่ไม่อยากให้คุลม ถึงขั้นตัดแม่ตัดลูก อาจจะไม่ใช่แค่การคลุมผมแต่การเป็นมุสลิมของเราด้วยที่ท่านไม่เข้าใจ แม่บอกว่าอะไรก็ไปทางอิสลามหมดแล้ว สังคมที่อยู่ก็มีมุสลิมน้อยมาก ช่วงที่คลุมผมคนที่บริษัทก็ถาม บางคนก็บอกว่าแต่งงานกับอิสลามแน่เลย และบอกว่ามุสลิมเดิมที่นี่ยังไม่คลุมเลย ร้อนบ้างมั้ย หรือ ศาสนาเขาบังคับหรอ ฉันก็ตอบไปว่า  ก็อยากจะทำให้ดี เราทำดีเราก็ได้เอง ใครไม่ทำก็แล้วแต่เขา นั่นคือตัวเขา แต่ตามหลักศาสนาแล้วต้องคลุม การคลุมฮิญาบของฉันเป็นที่สงสัยของหลายคน แต่ก็ทำให้ได้ตอบคำถามอีกหลายคนด้วย บางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการบางอย่างของศาสนาอิสลาม เขาเห็นเราคลุมผมเขาก็เข้ามาถาม ทำให้เราได้ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาไปในตัว  หลายๆ คนยังไม่คลุมเพราะกลัว แต่ถ้าหากเรามอบหมาย และตั้งใจให้ดี ขออดุอาอ์จากอัลลอฮฺแล้วพระองค์จะทรงประทานให้ซึ่งความกล้าและความอดทนต่อผู้คนรอบข้างที่ไม่เห็นด้วย Islammore : อะไรที่ทำให้คุณเชื่อมั่นและศรัทธาในศาสนาอิสลาม ? Saniyyah : สิ่งที่ดิฉันเชื่อมั่นและศรัทธาตอบอย่างชัดเจนคือ อัลลอฮฺ ดิฉันรู้สึกได้ว่าพระองค์ทรงมีอยู่จริงและอยู่ในใจฉันเสมอ พระองค์คือผู้สร้างเพราะเมื่อได้รับในสิ่งที่ดี หรือเจอเรื่องที่เราต้องใจหาย  ฉันก็จะนึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ ทุกครั้งที่ดิฉันท้อแท้ มีปัญหาอะไรก็จะละหมาด และขอดุอาอ์ แล้วก็ดีขึ้นมาก ดิฉันได้มีโอกาสอ่านอัลกรุอ่านแปลไทย ซึ่งไปขอมาจากสถานทูตซาอุดิอาระเบีย ยอมรับว่าในอัลกรุอ่านมีหลายอายะฮฺที่ทำให้ฉันต้องน้ำตาไหล เพราะนั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และเรื่องราวต่างๆ ก็เป็นอุทาหรณ์ ที่อัลลอฮฺทรงประทานเป็นทางนำให้มนุษย์ชาติโดยที่ท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงชีวิตแบบอิสลาม Islammore : คุณคิดว่าหลังจากการเปลี่ยนศาสนาแล้ว ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ? Saniyyah : บรรดาการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ  ... ดีขึ้นมาก แม้ว่าบททดสอบของอัลลอฮฺ จะมีอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เคยทำให้ฉันต้องออกจากศาสนาอิสลามเลย ทุกครั้งที่ละหมาดจะขอดุอาอ์เสมอว่า  ให้ตัวเราดำรงมั่นในอิสลามด้วยความนอบน้อมและยำเกรงต่อพระองค์ สุขภาพจิตก็ดีขึ้น ปกติแล้วเป็นโรคเครียด แต่พอเปลี่ยนศาสนาก็ไม่มีอาการนี้อีกเลย อาจจะเป็นเพราะ เรารู้ว่าอัลลอฮฺทรงดูเราอยู่  เราต้องรักตัวเองให้มากๆ และต้องตั้งใจศึกษาศาสนาอิสลามและดำรงไว้ซึ่งความมั่งคงในการทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์ให้เยอะๆ มีบ้างครั้งบททดสอบของอัลลอฮฺ  ทำให้ฉันต้องร้องไห้และทบทวนตัวเองว่าบ่าวทำอะไรไม่ดี ถึงต้องเจอเรื่องที่ร้ายแรงจัง แต่พอใช้ความคิดสติปัญญาที่อัลลอฮฺทรงประทานให้ก็จะรู้สึกว่า ดีแล้วที่อัลลอฮฺยังทรงทดสอบเรา เพราะจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและได้รู้จักอัลลอฮฺมากขึ้น ทุกวันนี้อัลฮัมดุลิลละฮฺ(ขอบคุณอัลลอฮฺ)มาก ที่พระองค์ทรงฮิดายะฮฺให้ได้เป็นมุสลิม ยืนมองดูผู้คนอีกมากมาย อยากจะให้พวกเขาได้รู้จักอิสลามให้ลึกซึ้ง แล้วมนุษย์ทุกคนจะมีความสุข  ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ หัวใจเราก็จะมีความศรัทธามากขึ้นเท่านั้น และก็จะยิ่งพบกับความสุขมากขึ้นด้วย Islammore :  อยากฝากบอกอะไรถึงพี่น้องมุสลิม และสังคมมุสลิมของเรา .... Saniyyah : อยากให้มุสลิมเดิมปฏิบัติตนและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับมุอัลลัฟ  เพราะบางคนพูดว่ามุสลิมตั้งแต่กำเนิดยังไม่คลุมผมเลย พอเราเข้ามาเป็นมุสลิมก็จะเกิดการเปรียบเทียบ คนส่วนมากก็จะเชื่อการปฏิบัติของมุสลิมเดิมมากกว่า ดิฉันเจอผู้คนรอบข้างถามเยอะมาก ว่าทำไมบังคนนั้นกินเหล้า เขาก็เป็นอิสลามตั้งแต่เกิด หรือทำไมผู้หญิงคนนั้นไม่คลุมผมเขาก็เป็นอิสลามตั้งแต่เกิด หรือเขาไม่เห็นละหมาดเลย หรือบางคนบอกว่า มุสลิมเป็นเกย์ได้ด้วยเหรอ  ทำไมเราต้องเคร่งด้วย มุสลิมตั้งแต่เกิดไม่เห็นทำเหมือนที่ดิฉันได้ศึกษามาเลย สังคมมุสลิมอ่อนแอมาก บางคนแต่งงานกับคนต่างศาสนาทั้งที่ยังไม่มีความศรัทธาที่แท้ จริงต่อพระเจ้า แล้วก็มีลูกด้วยกันแต่ไม่ได้รับการศึกษาในทางอิสลาม ผลออกมาก็คือเด็กคนนั้นมีชื่อว่าเป็นมุสลิม แต่การปฏิบัติไม่ใช่เลย ถ้าสังคมมุสลิม มีความสมัคสมานสามัคคีกัน ช่วยกันเชิดชูศาสนาอิสลาม  เปิดโอกาสรับความคิดเห็นของผู้อื่นมีความตั้งใจมากในการเผยแพร่ศาสนาของพระองค์ด้วยความตั้งใจ ใช้ใจเข้าหาพี่น้องร่วมศรัทธา ดิฉันว่าคุณก็จะได้ใจเขามาอย่างแน่นอน ไม่อยากเห็นมุสลิมแบ่งแยก  อยากให้ทุกหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ช่วยกันเผยแพร่ศาสนา ร่วมมือร่วมใจกัน ปกป้องรักษา และดำรงมั่นในแนวทางอัลอิสลาม นับวันก็ยิ่งมีคนเข้ารับศาสนาอิสลามมากขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้เขาดำรงมั่นอยู่ตลอดไป นอกจากการขอดุอาอ์จากอัลลอฮฺ มุสลิมเราก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไปด้วย   Islammore : ความเจ็บปวด(บททดสอบ)ที่ได้รับจากครอบครัวและสังคมหลังจากการเปลี่ยนศาสนา ?  Saniyyah : เรื่องของครอบครัวขอบอกตามตรงว่า ณ ตอนนี้ แม่ยังรับไม่ได้ คือ ช่วงแรกที่คลุมฮิญาบ ท่านก็บอกว่า ไม่ต้องมาพบหรือเจอท่าน เพราะแม่อาย และบอกว่าคนตระกูลนี้ไม่มีหรอกที่จะคลุมผม ผ่านไปหลายเดือน เกือบ 4 เดือน ดิฉันก็ขอจากอัลลอฮฺ ให้พระองค์ทรงเปิดหัวใจแม่ของดิฉันให้ท่านได้เข้าใจบ้าง ก็ดีขึ้นบ้างเวลาไปไหนมาไหนกับท่านก็คลุมผมปกติ แต่แล้วอัลลอฮฺได้ทดสอบอีกครั้ง เรื่องนิกะห์(แต่งงาน)ที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 53  แม่ไม่เข้าใจอย่างมากและปัจจุบันนี้ฉันกับแม่ก็ยังไม่ได้คุยกันเพราะท่านไม่คุยด้วย ไม่ยอมให้ไปเจอโทรไปก็ไม่รับสาย ท่านไม่เข้าใจเรื่องสินสอด(หมายถึงมะฮัรฺ) แม่เข้าใจว่าเป็นค่าน้ำนม จึงอธิบายให้ฟังแต่ก็ไม่ยอมเข้าใจ เพราะช่วงนิกะห์นั้นง่ายมาก ไม่มีการแจกซอง และไม่มีการจัดงานใหญ่ ไปนิกะห์ที่มัสยิด มีเจ้าบ่าว เจ้าสาว และพยาน อิหม่าม และเพื่อนๆ รวมทั้งแม่และญาติ ๆ ที่เป็นคนพุทธ   สิ่งที่ดิฉันพยายามขอดุอาอ์มาตลอด ก่อนจะนิกะห์อยากให้แม่ได้เห็นสังคมมุสลิม และอัลลอฮฺก็เมตตา แม่ไปวันทีฉันนิกะห์ ทั้งที่ท่านยังไม่พอใจอีกหลายอย่าง หลังจากวันนิกะห์เพียงวันเดียวท่านก็ระเบิดอารมณ์ บอกถึงขั้นว่า (มึงก็คิดซะว่ากูตายไปจากมึงก็ได้)ไม่ต้องมายุ่งอีก ในเมื่อเป็นอิสลามก็เป็นไป อยู่กันคนละศาสนาก็อยู่ไป แต่ไม่ต้องมายุ่งกับเขา ดิฉันร้องไห้ และท่านยังบอกอีกว่า ตัวดิฉันเดี๋ยวก็อยู่กับสามีได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็เลิกกัน แม่บอกว่า เขาไม่เคยเห็นคนที่เป็นแบบดิฉันจะอยู่กันรอด ดิฉันก็ร้องไห้แล้วก็บอกกับแม่ว่า แม่ทำไมไม่อวยพรให้หนูได้อยู่ด้วยกันตลอดล่ะ จะพูดในทางที่ไม่ดีทำไม จะพูดให้มันเจ็บช้ำน้ำใจกันทำไม ท่านก็ยังบอกอีกว่า มึงเจ็บกูเจ็บกว่ามึงหลายเท่า  เมื่อก่อนฉันจะถียงแม่ พูดคุยกับท่านก็ใส่อารมณ์ พอตั้งแต่รับอิสลาม ฉันไม่คิดจะถียงท่านเลย พูดคุยด้วยความใจเย็น อธิบายบางเรื่องถ้าไม่เข้าใจ แต่ในสายตาของแม่ก็ไม่ได้ดีขึ้น แต่จะให้ออกจากศาสนาเพื่อให้แม่พอใจ ฉันคงไม่ทำอย่างแน่นอน สังคมที่เป็นอยู่ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้าง คือ มุสลิมปฏิบัติไม่เหมือนเรา เขาก็จะถามว่าทำไมทำไม่เหมือนกัน ทำไมเราเคร่งจัง คนที่เป็นเพื่อนบ้านเขาเคยเห็นเราแบบก่อน  พอมาเป็นมุสลิมเขาก็จะคิดว่าเป็นมุสลิมเพราะมีสามีเป็นมุสลิม แต่ทั้งหมดไม่มีใครจะมามีอิทธิพลกับตัวฉันได้ เพราะฉันรู้ว่าอัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้ดีว่าดิฉันเป็นมุสลิมเพราะอะไร ! Islammore : ความรู้สึกจากการละหมาด ? Saniyyah : มีความรู้สึกสบายใจมาก ดิฉันมีความสุขมากที่ได้ละหมาด ดิฉันชอบที่จะละหมาด  บางครั้งเป็นประจำเดือนยังเผลอจะไปอาบน้ำละหมาดเลย อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกเหมือนว่าอัลลอฮฺมองดูเราอยู่ เวลาดิฉันเสียใจดิฉันก็ละหมาดขอจากอัลลอฮฺ ดิฉันได้รับริสกีดิฉันก็ละหมาดขอบคุณอัลลอฮฺ เกินคำที่จะบรรยายได้หรืออธิบายได้   Islammore : ขออะไรในเวลาละหมาด ? Saniyyah : จริง ๆ ขอหลายอย่างมาก ได้รับมาก็เยอะนะค่ะ อัลฮัมดุลิลละห์ และจะขอเสมอว่าให้ฉันเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺ ทำหน้ามุสลิมมะห์ที่ดี ทำหน้าภรรยาที่ดี  ทำหน้าที่แม่ที่ดี อยู่ในทางอัลอิสลาม มีอีหม่านที่เข้มแข็ง ยอมรับกับบททดสอบของพระองค์ และขอให้ครอบครัวดิฉันได้รับอิสลาม ขอเสมอว่าให้อัลลอฮฺทรงเพิ่มพูนความรักให้กับดิฉันและสามีในทางอัลอิสลาม และดิฉันก็ขอให้อัลลอฮฺทรงอภัยโทษให้กับชาวกุโบรฺ และขอให้พระองค์ทรงตอบแทน ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมทั่วโลก Islammore : อยากบอกอะไรถึงเพื่อนๆต่างศาสนิก ? Saniyyah : อยากจะบอกว่า อิสลามคือทางนำอันประเสริฐ อยากให้ต่างศาสนิกได้รับการเปิดใจจากอัลลอฮฺ  อิสลามคือแบบแผนการดำเนินชีวิตที่ดีมาก อิสลามมีคำตอบทุกอย่าง มีครบตั้งแต่เกิดจนกระทั่งจบชีวิตลง  ตายไปแล้วจะได้รับอะไร อยู่ในหลุมฝังศพจะต้องเจออะไร หลังจากวันที่ถูกสอบสวนทุกจะได้รับที่สิ่งที่ตนเองได้กระทำไว้ ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และปฏิบัติความดีด้วยความอดทน การตอบแทนคือสรวงสวรรค์ ผู้ใดที่เคารพสิ่งอื่น รูปปั้นหรือมีภาคีกับอัลลอฮฺ เขาก็จะได้รับซึ่งโทษทันต์อันเจ็บปวด ในโลกนี้นี้มีอะไรจีรังยั่งยืน เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่นานก็ดับสลาย แต่โลกหน้าสิเราจะมีชีวิตที่ยืนยาว อยากให้ทุกคนได้รับศาสนาของอัลลอฮฺจริงๆ ค่ะ   Islammore :  ญะซากิลลอฮุค็อยร็อน(ขออัลลอฮฺตอบแทนด้วยความดีงาม) ความเจ็บปวดต่างๆ คือบทเรียน บททดสอบจะทำให้ทุกคนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น นั่นหมายถึงรางวัลที่ล้ำค่ามากขึ้น ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะไม่ได้รับการทดสอบจากพระองค์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในศาสนาไหนก็ตาม   ขออัลลอฮฺประทานพรให้ซานิยาฮฺเข้มแข็งและอดทนต่อไป และยึดมั่นต่อหลักการอัลอิสลามอย่างเหนียวแน่น ขอพระองค์ทรงให้ซานิยาฮฺได้รับความโปรดปรานและความจำเริญจากพระองค์ ขอให้แม่ของซานิยะฮ์ ได้เข้าใจในอัลอิสลาม ส่วนฮิดายะฮ์นั้นเป็นสิทธิของพระองค์ อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน   ที่มา เว็บอิสลามมอร์ //islammore.com/main/content.php?page=sub&category=43&id=2369

المرفقات

2

มุสลิมใหม่ วนิสสา ลางสันเทียะ : อิสลามคือทางนำอันประเสริฐ
มุสลิมใหม่ วนิสสา ลางสันเทียะ : อิสลามคือทางนำอันประเสริฐ